ใครๆ ก็คิดได้ แต่ใครบ้างที่จะทำได้ ทุกคนอยากมีเงินเก็บหลักล้าน อยากรวย อยากมีเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถทำได้จริงตามที่คิด ซึ่งจริงๆ แล้วการที่เรามีแนวคิดของเรา ถือว่ามาถูกทางแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือคือแผนการที่จะนำพาเราไปสู่เป้าหมายความมั่งคั่งตามที่เราได้จินตนาการเอาไว้ ลงทุนอะไรก็ไม่สู้ลงทุนในความรู้ ก่อนที่จะไปรู้จักหนังสือ มาดูประสบการณ์ชีวิตของแอดมินกันก่อนนะคะ
ประสบการณ์ด้านการเงินของผู้เขียน
ย้อนกลับไปในช่วงที่เพิ่งเรียนจบ ปี 2010 เราได้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 12,000 บาท หักประกันสังคมแล้วเหลือ 11,400 บาท มีค่าเดินทาง ค่ากินที่ต้องออกเอง บอกเลยว่าไม่พอค่ะ ส่วน Mindset ในช่วงนั้นคือ “ใช้เงินยังไงก็ได้ให้หมด” ไม่เคยเหลือเก็บ ไม่พอก็ยืมแม่ เดือนหน้าค่อยคืน แล้วก็ยืมใหม่ วนลูปอยู่แบบนี้ จนวันนึงก็มีจุดหักเหในชีวิตที่ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า เราจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ จากนั้นก็เริ่มจากอ่านหนังสือก่อนค่ะ ไม่เคยมีใครสอนเราเรื่องการใช้เงินเลย เราก็เลยจำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง หนังสือที่ได้อ่าน ณ เวลานั้นก็คือ “พ่อรวยสอนลูก” หนังสือเล่มนี้ให้แนวคิดดีๆ หลายอย่าง พร้อมกับตัวอย่างของคนที่บริหารจัดการเงินได้ดี กับคนที่ติดกับดักทางการเงิน
หลังจากอ่านจบเราก็หางานใหม่ เริ่มต้นกับที่ใหม่ แล้วก็พยายามปรับปรุงนิสัยทางการเงินของเราแบบเคร่งครัดมาก พลิกวิถีชีวิตไปเลย วางแผนการเงินใหม่ อาหารเช้า กลางวัน ประหยัดสุด ส่วนน้ำหวานไม่กินเลย การเดินทางก็เลือกวิธีที่ถูกที่สุด พยายามให้เหลือเงินต่อเดือน ช่วงแรกก็เหลือบ้าง ไม่เหลือบ้าง แต่อย่างน้อยๆ จะมี 1,000 บาท พยายามอยู่หลายเดือนก็ไม่ได้รวยขึ้น แต่เราว่าวินัยทางการเงินเราดีขึ้นมากค่ะ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกเลยนะคะว่า ต้องใช้พลังใจสูงมาก แล้วการเปลี่ยนนิสัยก็ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว แต่มันใช้ระยะเวลาค่ะ
เราเป็นคนชอบเที่ยว ทุกๆ 6 เดือนต้องมีทริป ใช่ค่ะ เงินที่พยายามเก็บก็หมดไปกับการเที่ยวแหละ แต่อย่างน้อยคือ เราไม่เป็นหนี้ ไม่ยืมเงินใคร แล้วพอครบปี บริษัทมีโบนัสเป็นเงินก้อน เราก็เก็บเลย เอาไปซื้อสลากออมสิน สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้เงินก้อนนี้ 3 ปี ผ่านไปเราก็มีเงินเก็บจากเงินโบนัสอยู่ 80,000 บาท
คราวนี้เราเอาเงินไปเดินตามฝันเลยค่ะ ไปเรียนภาษาที่อเมริกา ตอนช่วงปี 2015 แล้วก็ทำงานไปด้วย ต้นทุนที่เอาไปตอนนั้นอยู่ที่ 100,000 บาท ไปใช้ชีวิต 1 ปี ก็กลับมาอยู่เมืองไทยยาวๆ บอกเลยว่าประสบการณ์ครั้งนั้นมันล้ำค่ามาก ช่วยเปิดโลกอะไรหลายอย่างให้เรา สร้างสกิลที่พร้อมเผชิญหน้ากับทุกปัญหา และความท้าทาย เพิ่มความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาเยอะ พอถึงวันที่เรารู้สึกว่า เราเพียงพอแล้วกับการใช้ชีวิตที่อเมริกา เราก็เลยกลับมาเมืองไทยและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เงินที่มีก็ไม่ได้เหลือเยอะ แต่รู้แค่ว่า “เราต้องรอด” แล้วเราจะทำให้ดีกว่าเดิม
8 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก ปัจจุบันเราทำอาชีพรับออกแบบและสร้างเว็บไซต์ รายได้ไม่แน่นอน แต่เป็นอาชีพที่มีสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต และสุขภาพการเงิน ดีกว่างานอื่นๆ ที่เคยทำมา แบ่งเงินเป็นสัดส่วน ตอนนี้ก็เริ่มลงมือทำตามแผนเกษียณมากขึ้น ซื้อประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ เอาไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุขค่ะ
ปี 2022 เริ่มสนใจการวางแผนการเงินด้วยประกัน ซื้อประกันสุขภาพเล่มแรกให้ตัวเอง ก่อนหน้านี้จะใช้แค่สิทธิ์รักษาพยาบาลกับประกันสังคมเพียงอย่างเดียวเพราะคิดว่าเพียงพอ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความกังวลก็ตามมาด้วย เลยหันมาให้ความสำคัญกับประกัน และไปๆ มาๆ เลยกลายเป็นว่าได้เข้าสู่อาชีพตัวแทนประกันชีวิตอย่างเต็มตัว เพราะเราคิดว่ามันคือโอกาส ไม่ได้เสียหายอะไร พอยิ่งได้ศึกษาเนื้อหาของประกัน และแบบประกันต่างๆ ไปจนถึงประกันควบการลงทุน ก็ยิ่งสนุกค่ะ รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ และใจความหลักก็คือเรื่องของ “เงิน” ถ้าหากเราวางแผนได้ดี เราก็จะช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวได้ สิ่งนี้คือสิ่งที่ปลาอยากส่งมอบให้กับทุกๆ คนที่รู้จักเลยค่ะ
เป้าหมายทางการเงิน
- มีเงินเกษียณ 10 ล้าน ปลดหนี้ทุกอย่าง
- มีบ้านของตัวเอง
- ได้ไปเที่ยวทุกครั้งที่อยากไป
ความผิดพลาด
- ปี 2015 ซื้อสลากออมสินแต่ถอนก่อนกำหนด ขาดทุนเล็กน้อย
- ปี 2015 ซื้อกองทุนรวม ก็ยังขาดทุนเล็กน้อย
- ปี 2019 ลงทุนพลาดเงินหายไป 1 ล้านบาท
- ปี 2021 ลงทุนคริปโต ตลาดยังไม่ฟื้น รอคอยอย่างมีความหวัง
ส่วนในตอนนี้ เราจะพยายามวางแผนการเงินให้รอบคอบมากขึ้น การลงทุนต้องศึกษาให้ดี ถ้าไม่ชัวร์เก็บเงินไว้กับตัวเองเฉยๆ ดีที่สุดค่ะ ปล่อยเค้าไว้ในบัญชี เค้าไม่หนีเราไปไหนแน่นอน (โปรดระวังแก๊งดูดเงิน อย่ากดลิ้งค์แปลกๆ เด็ดขาด) ที่ผ่านมาเราคิดว่าถ้าเราเรียนรู้และใส่ใจเรื่องการบริหารจัดการเงินให้ดีกว่านี้ เราก็คงมีเงินเก็บมากกว่าตอนนี้หลายเท่าค่ะ แต่อย่างว่า เรื่องความโลภนั้นไม่เข้าใครออกใคร ต้องเจ็บเองถึงจะรู้เอง
นี่คือเรื่องจากประสบการณ์ตรงค่ะ เราเลยอยากจะแนะนำหนังสือวางแผนการเงิน ให้กับคนที่อยากจะมีสุขภาพการเงินที่ดี และมีอนาคตที่สดใสรออยู่
6 หนังสือวางแผนการเงิน ที่ต้องมีติดบ้าน
เราได้ทำการคัดเลือกหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเงินมาให้เพื่อนๆ อ่าน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หนังสือสอน Mindset หรือทัศนคติทางการเงิน ที่ทำให้เราเห็นภาพและเข้าใจเรื่องการเงินกับชีวิตมากขึ้น และอย่างที่สองจะเป็นแนวทางให้เราวางแผนการเงิน จัดสรรเงินที่มีให้อยู่ในทางที่ถูกที่ควร และเตรียมตัวสำหรับแผนขั้นต่อๆ ไป
1. พ่อรวยสอนลูก
หนังสือเล่มนี้เป็นยิ่งกว่าตำนาน เนื้อหาการเล่าเรื่องจัดว่าดีมาก อ่านสนุก นอกจากจะอ่านเองแล้ว ยังสามารถให้เด็กๆ อ่านได้ด้วยนะ ตัวหนังสือบอกเล่าถึงความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าต้องมีเงินมากถึงจะรวยได้ ความเชื่อที่คิดว่าบ้านเป็นทรัพย์สิน ซึ่งในหนังสือจะให้นิยามของทรัพย์สินและหนี้สินที่ถูกต้อง พร้อมความรู้ทางการเงินสำหรับทุกคนที่ต้องการควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง
โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นในเรื่องของการหารายได้ ถ้าเรามีช่องทางสร้างกระแสเงินสดจำนวนมากได้ก็ยิ่งทำให้เรารวยเร็วมากขึ้น และทุกการใช้จ่ายของเราก็ต้องคิดอย่างรอบคอบด้วยเช่นกันว่ามันก่อให้เกิดประโยชน์จริงไหม
เล่มนี้เป็นหนังสือที่เก่าพอสมควร หลายคนเคยได้อ่านแล้ว ก็อยากให้ไปอ่านซ้ำหลายๆ รอบ ส่วนคนที่ไม่เคยอ่าน อย่าพลาดโดยเด็ดขาด รีบซื้อมาเก็บไว้ แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป
2. คู่มือวางแผนการเงิน ฉบับวัยทำงาน
หนังสือเล่มนี้อธิบายเรื่องเงินแบบเข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่คนทั่วไปเข้าถึง แถมยังมีภาพประกอบที่ชัดเจน และตารางการเงินต่างๆ ที่เป็นตัวอย่างเอาไปใช้ได้จริง และยังเป็นข้อมูลที่อัพเดท ใช้กับบริบทสังคม ณ ตอนนี้ได้เลย นอกจากนี้ยังมีการอธิบายในเรื่องของการซื้อประกันแบบละเอียด การเสียภาษี การทำความรู้จักกับสิทธิประโยชน์ในการทำงานกรณีถูกเลิกจ้าง วิธีการลงทุนอย่างมีแบบแผน พร้อมข้อมูลอีกมากมายที่มนุษย์เงินเดือนเอาไปปรับใช้ได้ เหมาะมากกับมือใหม่หัดวางแผนการเงิน แต่กลัวเรื่องตัวเลขและรายละเอียด เล่มนี้ทำเนื้อหาได้ดีทีเดียว น่าอ่านมากๆ และไม่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนานด้วยค่ะ แนะนำเลย
3. Money 101
หนังสือเล่มนี้จะมาบอกเล่าแนวทางในการบริหารจัดการเงินแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ตั้งแต่รายได้ขั้นต้นกันเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน แล้วก็คนที่อยากจัดระเบียบเรื่องการเงินของตัวเอง เนื้อหาในหนังสือเน้นไปที่การครอบคลุมประเด็นสำคัญในเรื่อง “การเงินส่วนบุคคล” และให้หลักคิด หลักปฏิบัติอย่างง่าย เพื่อให้คนอ่านสามารถนำไปทำตามได้
4. Retirement 101 (ภาษาอังกฤษ)
หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงขั้นตอนการวางแผนการเงินในช่วงชีวิตหลังเกษียณอายุ โดยเริ่มต้นจากการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเกษียณ และนำเสนอวิธีการจัดการเงินในช่วงเกษียณอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การลดค่าใช้จ่าย การลงทุนในกองทุนรวม หรือการซื้อประกันสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ หนังสือยังมีการแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเตรียมตัวทางด้านสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ และวิธีการสร้างความสุขในชีวิตหลังเกษียณอายุอีกด้วย เช่น การใช้ชีวิต การวางแผนแบ่งเงินสำหรับการท่องเที่ยว พร้อมคำแนะนำดีๆ อ่านเพิ่มเติม FIRE Movement รีบเกษียณในวัย 40
บางบทของหนังสือจะพูดถึงสวัสดิการและการจ่ายภาษีที่เป็นของคนอเมริกัน ซึ่งการคำนวณและการนำไปใช้อาจต่างกันในบริบทของประเทศไทย เราอาจจะต้องลองมองหาว่าอันไหนสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตเราได้บ้าง
5. Think and grow rich
หนังสือแนวพัฒนาตัวเอง สร้างแรงจูงใจ ที่บอกเล่าเกี่ยวกับทัศนคติทางการเงิน มีการใช้เรื่องกฎแรงดึงดูด ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเงิน คิดว่าเงินหาได้ง่าย ความคิดเราก็จะนำพาเราไปเจอแต่เรื่องบวกๆ ทางการเงิน แต่ถ้าเรามีทัศนคติที่ไม่ดีกับเงิน คิดแต่ด้านลบ ความขาดแคลนและเป็นหนี้ ก็จะนำพาเราไปในด้านแย่ๆ นอกจากนี้แล้วผู้เขียนยังได้สอนวิธีการสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเงิน เพื่อให้เรามีความมั่นใจและกล้าทำธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้
6. The Richest Man in Babilon
หนังสือด้านการเงินสุดคลาสสิกเหนือกาลเวลา ที่จะมาเผยความลับแห่งความมั่นคงจากการหาเงิน การเก็บออม และทำให้เงินงอกเงย เนื้อหาเรียบง่ายแต่ใช้ได้จริงกับทุกคน ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านนิทาน สอนได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อ่านสนุก มีข้อคิดที่ไม่ซับซ้อน และไม่ยากจนเกินไป เหมาะสำหรับทุกคน ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะนักวางแผนทางการเงินเท่านั้น ที่จะนำไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ มีหลายบทที่ทำให้เราฉุกคิดย้อนไปถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา และต้องเตรียมใจให้พร้อมเพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำเดิมอีก เมื่อรู้ทฤษฎีแล้วก็อย่าลืมไปปฏิบัติตามด้วยล่ะ ความสำเร็จเป็นของทุกคน
ทำไมบางคนไม่ชอบเรื่อง การวางแผนการเงิน
การวางแผนการเงิน บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสุดๆ ใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล ไม่เหมือนกับเส้นทางรวยเร็ว การลงทุนต่างๆ นานา ที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็อย่าลืมว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง มีได้มีเสีย ไม่ใช่ทุกคนที่จะลงทุนแล้วได้กำไร แต่ถ้าเราเลือกวางแผนการเงินให้ดี เลือกซื้อประกันให้เหมาะสม จัดสรรเงินให้ไม่กระทบชีวิต หรือก่อหนี้สินเกินตัว ก็จะทำให้เรามีชีวิตที่ดี ไม่จมกับความทุกข์เพราะเรื่องเงินได้นะคะ
สรุป หนังสือวางแผนการเงิน ช่วยได้จริงไหม
หนังสือที่เรานำมาแนะนำนั้น มีเนื้อหาที่ดีมากๆ เลยทีเดียว คัดแต่ตัวท็อปมาให้ อยากให้เพื่อนๆ เปิดใจ หาหนังสือมาอ่านกันค่ะ หนังสือดีอาจเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้เลยนะ สำหรับคนที่กลัวเรื่องการเงิน คิดว่ามันยาก ไม่สามารถจัดการได้ หรืออาจจะมีหนี้สินที่ทำให้เรามีทัศนคติในเชิงลบเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ไม่พยายามจัดการและดูแลจนทำให้มันกลายเป็นปัญหาชีวิต เราอยากจะบอกว่า หนังสือนี่ล่ะค่ะ ที่จะมาช่วยเปิดทางสว่างให้กับทุกคน ทั้งแนะแนวทาง ช่วยปรับมุมคิด ปรับทัศนคติ และจะช่วยให้เรามีสุขภาพการเงินที่ดีขึ้น
สำหรับคนที่มีสภาพคล่องทางการเงินดีอยู่แล้ว แต่มีความสนใจที่จะวางแผนเพื่ออนาคต หนังสือที่แนะนำมาก็ถือว่าตอบโจทย์พอสมควรเลย จะวางแผนซื้อประกัน หรือแบ่งเงินไปลงทุนในสัดส่วนที่เรารับได้ ก็ยิ่งดี เมื่อแผนการเงินดี ชีวิตก็จะมีสุขกันอย่างแน่นอนค่ะ
นอกจากหนังสือแล้ว ประสบการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจทางด้านการเงินอย่างลึกซึ้ง ค่อยๆ พัฒนากันไปนะคะ
ณภัทร คล่องผจญกิจ (คุณปลา)
ที่ปรึกษาทางด้านการเงิน | นักออกแบบ | Entrepreneur
ที่ปรึกษาทางด้านการเงินผู้มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการเงินแบบครบทุกมิติ โดยใช้ประกันชีวิตทั้งแบบสามัญและประกันชีวิตควบการลงทุนมาเป็นเครื่องมือช่วยพาทุกท่านไปสู่เป้าหมายทางการเงินอย่างดีที่สุด